รำลึกเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ

             เหตุการณ์พฤษาทมิฬ ในช่วงเดือน พฤษภาคม 2535 หลายๆท่านน่าจะยังจดจำกันได้ดี วันนี้จึงขออนุญาตหยิบยกมุมดาวจร ที่ทำมุมสัมพันธ์ถึงดาวในดวงเดิม ของดวงชะตาเมืองไทยมาให้ได้ทราบกัน

              เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงอายุดวงเมืองย่าง 211 ปี ทักษาจรตกภูมิอังคาร หรือ ดาว 3 ส่งผลให้ดาว 2 เป็นกาลีจรปี และ ดาว 7 เป็นศรีจรปี 
ดาว 2 พันธุเป็นกาลีจร หากในดวงของบุคคลนั่นก็หมายถึงเหตุการณ์ในครอบครัว หรือในบ้านอาจจะมีปัญหา มีเกณฑ์ซ่อมรถ ซ่อมบ้าน

             มุมดาวจรที่สำคัญๆคือ

- ดาว 7 จร ( 20.00 องศา) ที่ราศีมังกร เล็งดาว 2 เดิมที่สถิตในราศีกรกฏ (16.17 องศา) องศาใกล้ชิดสนิทนวางค์ พระเสาร์ทับลัคน์ทับจันทร์จะพลันร้าย เกิดวิบัติฉิบหายลูกเมียหนี แม้จะไม่ทับโดยตรง แต่ มุมเล็งนั้นก็ร้ายแรงเช่นกัน
- อีกจุดคือ ดาว 4 จรทับดาว 3 และ ดาว 3 จรทับดาว 4 คือ เกณฑ์การมีปากเสียง หรือ มีเรื่องวิวาทะ ประทะคารมณ์ มุมดาวเข้ากฏ "สมาสัปต์" และ ดาว 3 จร (19.23 องศา) ก็ทับดาว 4 เดิม ( 20.01 องศา) จุดนี้ก็ยิ่งชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
- และ ที่ร้ายแรงอีกจุดคือ ดาว 7 จรสถิตราศีธนู (20.00 องศา) ส่งเกณฑ์สามไปหาดาว 3 จร ที่จรในราศีมีน ( 19.23 องศา) และ ตรีโกณถึงดาว 3 เดิม ( 20.22 องศา) 73 คือ คู่แตกหัก อุบัติภัย อุบัติเหตุร้ายแรง
- ดาวมฤตยู หรือ ดาว 0 ภัยอาเพศ จรเข้าราศีธนู ( 17.56 องศา) ทำมุมเป็นแปดแก่ดาว 3 ตนุลัคน์ในดวงเดิม ( 20.22 องศา) องศาห่างกันไม่มากเพราะอยู่นวางค์เดียวกัน
ดาว 3 คือดาวทหาร จุดนี้กระมังจึงส่งผลให้ พลเอกสุจินดา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นหมดอำนาจลงโดยปริยาย
- ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ดาว 1 จรทับดาว 3 เดิม และ ดาว 8 จร เป็นแปดแก่ดาว 3 ตนุลัคน์หรือลัคนาใน เข้ากฏ อสุรินทร์ถึงลัคนาใน แต่ องศาค่อนข้างห่าง น่าจะนำมาวิเคราะห์เป็นมุมรองๆมากกว่า

               เหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึั้น ไม่ว่าจะร้ายแรง หรือ ส่งเรื่องดีงาม ทุกอย่างจะต้องมีมุมดาวส่งผลถึงกันในหลายๆจุด
              ผู้เขียนหวังว่าเหตุการณ์ร้ายแรงในบ้านเมืองจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ กรรมก็คือกรรม ดวงดาวที่จรอยู่บนท้องฟ้าต่างหาก ที่จะตอบคำถามเราได้ดีที่สุด

#Kruomongkolastro