ชีวิตในวัยเด็กนั้นเจ้าชะตาค่อนข้างอ่อนหวาน และ อ่อนโยน มีแต่คนห้อมล้อม แม่เล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆ ไม่เคยได้อยู่บ้านเลย เพราะมีคนแย่งกันอุ้มตลอดทั้งวัน ( อิทธิพลของดาวตนุลัคน์ดาว 5 สถิตในภพ ศุภะ (ที่พึ่ง ที่อุปถัมถ์) + (ดาวตนุลัคน์ 5 ร่วม 2 "เสน่ห์") ชีวิตในวัยเด็กนั้นต้องบอกว่าติดแม่มากๆ นอนห้องเดียวกันไม่เคยแยกห่างจากกันเลย ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์แม่ต้องพาไปเที่ยวในเมืองแทบจะทุกอาทิตย์ ตัวติดกับแม่ยังกะปลาท่องโก๋ ( พันธุ "แม่" สถิตเรือน 5 แฝงเรือนเกษตรไปถึงลัคนา) + ( ตนุลัคน์ 5 ร่วม 2 "มารดา หรือ แม่ )+ (พันธุ (แม่) สถิตภพกัมมะเรือน 5 ถึงลัคนา )
ชีวิตในวัยเด็กก็เหมือนกับเด็กทั่วๆไปที่มีความฝัน อยากจะเป็นตามจินตนาการที่ตั้งใจ ตอนประถม อยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ แทบจะรอให้เลิกเรียนไม่ไหว พอตอนเลิกเรียนต้องรีบกลับมาเปลี่ยนชุดเพื่อไปเตะบอลกับเพื่อนๆ ( ตนุ 5 เป็นพระเคราะห์เรือนนอกหรือเป็นดาวลอยในเรือนดาว 3 "การใช้กำลัง หรือ กีฬา " และ ร่วมดาว 2 "การละเล่น หรือ การกีฬา) พอเข้าสู่มัธยมต้น ก็ได้ย้ายเข้ามาเรียนในอำเภอ ซึ่ง โรงเรียนนั้น มีทีมฟุตบอลที่เก่ง และ เป็นแชมป์นักเรียนของจังหวัดอุบล การที่ได้เห็นรุ่นพี่ซ้อมฟุตบอล และ เล่นฟุตบอล มันเหมือนจุดประกายความฝัน จึงตั้งเป้าให้ตัวเองว่า "ซักวันเราจะต้องเป็นนักฟุตบอลทีมโรงเรียนให้ได้" เฝ้ารอโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่าแต่โอกาสนั้นก็ไม่มาถึงตัวเองเลย " รู้สึกน้อยใจในโชคชะตา" แต่แล้วชีวิตก็เปลี่ยนไปตอนอยู่ ม.2 มีรุ่นพี่คนหนึ่งที่เป็นนักตระก้อของโรงเรียนได้ชักชวนให้หันมาเล่น "ตระก้อ" อาจารย์ที่เป็นโค๊ชก็เรียกไปพบ และ ก็ผ่านการคัดเลือกได้เป็นนักตระก้อโรงเรียน " สิ่งที่คิดไม่ได้ทำ สิ่งที่ทำไม่ได้คิด เพราะ อิทธิพลของดาวตนุลัคน์ที่เป็นมหาจักร " นับจากวันนั้น ความฝันจึงเปลี่ยนจากนักฟุตบอลทีมชาติเป็นนักตะกร้อทีมชาติแทนซะงั้น "เพราะสถานการณ์มันบังคับ" เล่นตะกร้ออยู่ 3 ปี "ช่วง ม 2- ม 4 " เคยได้เหรียญทองแดงตะกร้อนักเรียนจังหวัดอุบลทีมเดี่ยว (ตอน ม 3 ) และ เหรียญทองในตอนเรียนชั้น ม.4 "ความฝันนั้นได้เริ่มต้น ณ จุดนี้ " แต่ มันก็ต้องพังทลายลง เมื่อหนุ่มนักกีฬาคนนี้ มีแฟนคนแรก "โดดซ้อมเกือบทุกวันเพื่อขับมอร์เตอร์ไซค์ไปส่งแฟนสาว"โค๊ชทนรับพฤติกรรมไม่ไหว "จึงไล่ออกจากทีม และ หาคนอื่นมาแทน ทั้งเจ็บใจและเจ็บปวดที่สุดเพราะ ทุกอย่างมันพังลงด้วยพฤติกรรมของตัวเอง ( อริ สถิตเรือน 5 แฝงเรือนถึงลัคนา และ ดาว 1 อริ นั้น เป็นกาลกิณีวันเกิด ) + ( 4 เดช ร่วม 1 กาลี ชื่อเสียง(เดช) ในวัยเรียน( 4 สถิตกัมมะ กัมมะวัยเด็กคือการเรียน และ 14 คือคู่วิชาการ ต้องมัวหมองเพราะเดชร่วมกาลีที่เป็นอริถึงลัคน์ ) ( 14 คู่วิชาการ ดาว 4 เป็นปัตนิ มีคู่ หรือ มีความรักในสมัยเรียน)
ณ ตอนที่เรียนมัธยมเป็นช่วงที่ไม่ค่อยสนใจการเรียน รั้น ดื้อ เอาแต่ใจ ( ดาว 1 อริ ถึงลัคนา ) + ( 1 ตนุเศษ รั้น หัวแข็ง ฟอร์มจัด รักศักดิ์ศรี ) ทำให้การเรียนเกิดปัญหา แทบจะเรียกได้ว่า เกือบจะไม่จบมัธยมเลยทีเดียว จนคุณแม่ต้องมาขอร้องอาจารย์ให้ช่วยเหลือ ประกอบกับตนเองนั้นยังพอมีคุณงามความดีที่ทำให้โรงเรียนอยู่บ้างสมัยเป็นนักกีฬา อาจารย์หลายๆท่านจึงช่วยเหลือให้จบการศึกษา และ ให้สอบแก้ตัว (ตนุ สถิตภพ ศุภะ) + ( 6 มนตรี สถิตภพ ลาภะ เรือนศรี) จึงจบมัธยมมาได้แบบลากเลือด
ในช่วงเรียนหรือช่วงที่อยู่ในวัยศึกษา มีเพื่อนฝูงมากมาย ( 6 สหัชชะ สถิตลาภะ เรือนศรี ) เพราะส่วนตัวนั้นเป็นขี้เล่น ตลก เฮฮา สร้างรอยยิ้มให้เพื่อนได้ตลอด เรียกได้ว่า ใครอยู่ใกล้มักจะไม่เครียด ( ตนุลัคน์ลัคน์ ร่วม 2 (ปุตตะ สนุกสนาน เฮฮา ) แต่ ก็ทำตัวเป็นเด็กตลอดเวลาเช่นกัน
ในด้านความรักนั้น ดาว 6 สถิตลาภะ เรือนศรี เหมือนจะดี มีความรักที่เป็นลาภ แต่ พระศุกร์เอ้ย มาลอยทำไมอยู่ในบ้านของเสาร์ รู้มั้ย ว่า ( 67 นั่นเป็นคู่ อุปสรรคด้านความรัก มีรักต้องมีทุกข์ ) แต่ มันก็มีมาเรื่อยๆ ไม่เคยจะหนีมันได้ซักที เพราะ มันดัน มาลอยในภพลาภะ ส่วนดาวคู่ครอง หรือ ปัตนิ ก็เป็นดาว 4 (เดช) มีแฟนคงกลัวแฟนมากๆ เพราะ ดาวเดช คือ ดาวที่เราต้องเกรงใจ ใครมีบุตรเป็นเดช ก็โอ๋ลูก เกรงใจลูก ถ้ามีเพื่อนเป็นเดช ก็เกรงใจเพื่อน แต่ ดาวคู่เป็น ประ ( ก็เลยต้องเหนื่อยใจ การมีคนรักที่เคยมีแฟน เคยอกหัก หรือ สถานะความรักไม่มั่นคงจึงเกิดขึ้นบ่อยๆ ) ประกอบกับ ดาวราหู สถิตในเรือน พุธ เสมือน แฝงเรือนมา สถิตในราศีกันย์ ภพ ปัตนิ ( ทำให้ดวงต้องพินทุบาทว์ ราหู เล็งลัคน์ โดยอนุโลม) เรื่องคู่ครองนั้น จึงต้องผิดหวัง และ เสียใจ ในหลายๆครั้ง ทั้งเป็นฝ่ายบอกลา หรือ ต้องเอ่ยคำลาด้วยตัวเอง ความรักไม่ค่อยลงตัว ( 1 อริ กาลี ร่วม 4 ปัตนิ ) แต่ ก็ยังดีที่พระพุธ ยังเมตตามาลอยในเรือนดาว 5 ซึ่ง จังหวะที่ 2 มาบอกผล ศุภะ (และ 5 เป็นมหาจักร ) ต้นร้าย (ประ) ปลายดี (มหาจักร) ก็ยังพอมีหวังให้มีความรักที่ราบรื่นได้ในอนาคต แม้จะผ่านความทุกข์มามากก็ตามที + ( ดาว 7 ลาภะและศรีมหาอุจน์ เอื้อมถึงดาว 4 ปัตนิ ) ดาว 7 มีแรงเอื้อมไปยังราศีที่ 3 และ ราศีที่ 10
ปี 2547 โดยประมาณ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านชีวิตครั้งใหญ่ เนื่องจากต้องเก็บกระเป๋าเดินทางเข้ามาทำงาน และ เรียนต่อยังเมืองหลวง ( วินาสน์ + พันธุ = กัมมะ) ต้องห่างบ้านเกิด ถิ่นฐาน พ่อแม่ญาติ เพราะ ต้องมาทำงาน และ เรียนต่อ ( กัมมะ คือการงาน และ การเรียน ) ชีวิตในเมืองหลวงช่วงแรกๆนั้น ยากลำบาก เดือดร้อนแสนสาหัส ต้องอดมื้อกินมื้อ แต่ ด้วยความมานะพยายาม ประกอบกับ มีเพื่อนและมิตรสหายที่ดี ( สหัชชะ + ลาภะ ) ทำให้ประครองตัวเองในการดำเนินชีวิตได้
ช่วงเรียนในระดับอุดมศึกษา เกิดความคิดที่ว่าทำแย่มาตลอดในวัยเรียนมัธยม อยากจะทำให้ดีเพื่อแก้ตัวในสิ่งที่ผิดพลาด การเรียนในระดับอุดมศึกษาจึงขยันมากๆ เรียนด้วย ทำงานด้วย (ศึกษาที่รามคำแหง คณะ รัฐศาสตร์ เอกการปกครอง) เกรด เฉลี่ย 3 หน่อยๆ วันที่เรียนจบ ถอนหายใจยาวๆ เพราะ สุดท้ายก็ทำได้อย่างที่ตั้งใจ ด้วยอิทธิพลของดาว ( 5 ตนุลัคน์ที่เป็นมหาจักร สถิตในภพ ศุภะ ) ปุตตะ คือ การเรียนในวัยเด็ก ส่วน ศุภะ คือ การเรียนในระดับสูงขึ้น หรือ วัยผู้ใหญ่นั่นเอง
การเรียนโหราศาสตร์ หากเอาดวงตัวเองเป็นดวงครู หรือ สอนตัวเอง เราจะเข้าใจมุมมองของดวงดาวได้อย่างถ่องแท้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆท่านที่สนใจในโหราศาสตร์ไทยนะครับ
ฝากบทความโหราศาสตร์ชุดที่ 1 -3 ด้วยนะครับ วางแล้วใน Meb " แอฟอ่านอีบุ๊คออนไลน์ บนมือถือ และ แทปเลต "ทั้ง IOS และ Android....
รับปรึกษาปัญหาชีวิต หาฤกษ์ทำการมงคล ฤกษ์คลอด ฤกษ์ออกรถ และ รับสอนโหราศาสตร์ติดต่อได้ที่ :
Page : @mongkolastro
www.facebook.com/mongkolrachachok
Line Id : Mongkolastro
IG : Mongkolastro
Tel : 095-223-5422 063-782-3996
อ่านบทความย้อนหลังได้ที่ https://mongkolastro.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น