วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เส้นทางสายพยากรณ์

"ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
         บทความนี้ อยากจะมาเล่าประสบการณ์ในการศึกษาโหราศาสตร์จากจุดเริ่มต้น จนถึงปัจจุบัน เผื่อหลายๆท่านอยากจะนำไปปรับใช้ในการเรียน และ การศึกษาของตนเอง
         แรกเริ่มเดิมที จุดเริ่มต้นของชีวิตในสายการพยากรณ์ ผู้เขียนเริ่มสนใจในศาสตร์ของกราฟชีวิต ตอนนั้นน่าจะประมาณสิบขวบเห็นจะได้ เริ่มมาวิเคราะห์ดวงตัวเอง ดวงคุณพ่อ คุณแม่ และ ญาติๆ รวมถึงเพื่อนสนิทมิตรสหาย ทายตรงบ้างไม่ตรงบ้างก็ตามประสาเด็กฝึกหัดพยากรณ์ อยู่กับกราฟชีวิตในช่วงระยะเวลาตอนที่เรียนประถม
         ต่อมาในสมัยที่อยู่มัธยม ความรักครั้งแรกก็บังเกิด เจอสาวสวยน่ารักน่าเอ็นดู ก็ตามประสาเด็กอ่ะนะ แอบมองแอบชอบไม่กล้าจะพูดจะคุย ก็ไม่รู้จะหาทางออกยังไงในความรักครั้งนี้ วันนึงเดินผ่านหน้าตลาด มีการขึ้นป้ายว่า รับดูดวง “เนื้อคู่” ..ผู้เขียนชะงักกับคำว่า เนื้อคู่ “ หมอดูท่านนั้น เป็นหมอดูเลข 7 ตัว” เลยสนใจตรวจดวงชะตา อดกินข้าวกลางวันก็เพราะต้องนำเงินส่วนนั้นมาเป็นค่าบูชาครู.. วันนั้นผู้เขียนได้รับคำพยากรณ์แบบไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าที่ควร ก็คุณหมอเล่นทายว่า คนที่เราชอบอยู่ เขามีคู่มีแฟนอยู่แล้ว เล่นเอาเซ็งไปเกือบเดือน เวลาผ่านไปเดือนกว่าๆ ..เพื่อนสนิทก็มาบอกข่าวว่า “มะวานกรุเจอน้องคนนั้นนั่งซ้อนมอร์เตอร์ไซค์ไปกะแฟนเขา กรุเลยมาบอกมรึงให้ทำใจ “ สิ้นสุดเสียงคำบอกเล่าจากเพื่อนคนดังกล่าว บอกได้คำเดียวว่า “เหมือนแผ่นดินไหวในหัวใจก็ไม่ปาน” เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ฝังใจกับวิชาเลข 7 ตัว เป็นอย่างยิ่ง.. อยากรู้ว่า เขาใช้อะไรทายทำไมแม่นและตรงประเด็นขนาดนี้ จึงได้หาข้อมูล และ ศึกษาเพิ่มเติมในช่วงระยะที่เรียนมัธยมอยู่ เก็บสถิติจากการดูดวงให้เพื่อนๆ และ ญาติๆ จดเหตุการณ์จดสถิติ “เริ่มจดสถิติตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา” อยู่กับวิชานี้ แทบทุกๆวัน และ เป็นนักล่าดวงชะตาตั้งแต่นั้นมา
         ในส่วนของโหราศาสตร์ไทย 12 ราศีนั้น เริ่มสนใจในช่วงที่มาอยู่กรุงเทพ ประมาณปี 2549 โหรท่านแรกที่ฟังคำพยากรณ์แล้วรู้สึกรักวิชานี้มาก ก็คือ อ.ลักษณ์ อ. เป็นโหรที่พยากรณ์แล้วยกหลักการของโหราศาสตร์มาวิเคราะห์ว่า เหตุผลอะไรถึงได้มาซึ่งลาภผล และ เหตุใดถึงเสียเงินเสียทอง ผิดหวัง และ สมหวัง อ.ท่านนี้ ยกมุมดาวออกมาพยากรณ์ และ วิเคราะห์แบบมีหลักการ จึงทำให้ผู้เขียนรู้สึกรัก และ ศรัทธาในตัวอ.ท่านนี้เป็นอย่างมาก ติดตามงานพยากรณ์ของท่านเสมอๆ และ ก็ได้ศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือหลายๆเล่ม เช่น หนังสือของ อ.ศ ดุสิต อ.สิงห์โตสุริยอารักษ์ อ.อรุณ รำเพ็ญ (หมอเถาวัลย์) รวมทั้ง อ.ท่านอื่นๆ ที่เมตตาให้ความรู้เป็นวิทยาทาน.. ในช่วงเริ่มศึกษา ก็ท่อง ก็อ่านทั้งวันทั้งคืน เริ่มจาก ดาวมาตรฐาน ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง “ ดาวอังคารเป็นเกษตรราศีเมษ ราศีพิจิก เป็น ประ ราศีพฤษภ ราศี ตุลย์ เป็นอุจน์ราศีมังกร เป็นนิจราศีกรกฏ เป็นราชาโชคในราศีพฤษภ เป็นมหาจักรในราศีกันย์ ..ดาวพฤหัสบดี เป็นเกษตรราศีธนู ราศีมีน เป็นประ ราศี มิถุน ราศีกันย์ เป็นอุจน์ราศีกรกฏ เป็นนิจ ราศีมังกร เป็นมหาจักรราศีพิจิก เป็นราชาโชคในราศีเมษ “ ท่องกฎ และ ตำราแบบนี้เกือบทุกๆวัน ไม่เว้นว่างเลยสักวันเดียว ต้องบอกว่า สมัยก่อน เพื่อนๆ จะเรียกผู้เขียนว่าจอมติส เอะอะ อยู่คนเดียว ไม่เข้าเพื่อนเข้าสังคม เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ ก็หัวใจมันรักโหราศาสตร์เข้าเส้นเลือดซะแล้วนะซี.. รู้สึกผูกพัน และ ยิ่งได้เก็บสถิติ หาเหตุผลในมุมมองของดวงดาว มันยิ่งสนุก และ มีความสุขในทุกๆวัน 
       ในระบบสิบลัคนานั้น ผู้เขียนได้อ่านบทความของอ.ท่านนึง ติดตามอ่าน และ เป็น FC อ.ท่านมาหลายปี .. ต่อมา อ.ท่านนี้ คือผู้ที่ประสิทธ์ประสาทวิชาในระบบนี้ให้แก่ผู้เขียน โดยที่ผู้เขียนได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์ และ รับสัจจะในการที่จะไม่เปิดเผยวิชานี้ให้ผู้ใด ยกเว้น แต่จะสอนศิษย์เท่านั้น รวมทั้งหากจะสอนศิษย์ได้ ก็ต้องเก็บดวงชะตาให้ได้ครบตามจำนวนที่ครูบาอาจารย์ตั้งไว้ ...ในระบบสิบลัคนา จะมีพื้นฐานเดิมจากโหราศาสตร์ไทย 12 ราศี หรือ ลัคนาเดียว แต่ มีกฎบางข้อที่อาจจะใช้แตกต่างกัน ตำราสิบลัคนาจึงมีความขลัง และ มีอาถรรพ์เป็นอย่างยิ่ง ระบบนี้ ผู้เขียนทึ่งมากกับเคล็ดวิชาที่ได้รับมา และสถิติที่ได้ประสบพบเจอ แต่ก็ไม่สามารถที่จะนำมาเผยแพร่ได้ เนื่องจากอยู่ในสัจจะ สัจจะบางข้อ เช่น ห้ามคำนวนหาเวลาที่เพศตรงข้ามเกิดอารมณ์ทางเพศ หรือ ห้ามให้ฤกษ์ที่เสียหายแก่ผู้อื่น หรือ แก่สังคม เช่น ฤกษ์ขนของหนีภาษี เป็นต้น..ในวันที่ตัดสินใจฝากตัวเป็นศิษย์ เมื่อสามสี่ปีก่อน วันนั้น ฝนตกปรอยๆ เลิกงานประจำตอนหัวค่ำ ต้องนั่งวินมอร์เตอร์ไซค์ตากฝนไปด้วยใจศรัทธา และ มุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะเรียนให้ได้.. ในระหว่างที่นั่งรถไปนั้น ก็ระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ ว่า หากลูกมีบุญพอขอให้ลูกได้เรียนวิชานี้ และ ขอให้แตกฉานด้วยเทอญ ทันทีที่พบอาจารย์ รู้สึกขนลุกและดีใจมากๆ แม้ค่าเรียนตอนนั้นจะเหยียบสองหมื่น ซึ่ง เกือบๆเท่ากับเงินเดือน ณ ตอนนั้นเลยทีเดียว แต่ ผู้เขียนก็ไม่รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด กลับดีใจด้วยซ้ำที่ได้ตำรากลับมา รวมทั้ง อ.ใจดี ให้ EBOOK ที่รวบรวมมาทั้งชีวิตเป็นของขวัญของความพยายามในครั้งนี้อีกด้วย “แอบดีใจ”
     นิแหละครับ เส้นทางในสายพยากรณ์ ในระยะเวลากว่า 20 สิบปี ของผู้เขียน... หวังว่า กัลยาณมิตรทุกๆท่าน จะร่วมสืบสาน วิชานี้ให้คงอยู่กับพวกเราต่อไปตราบชั่วกาลนาน ในโอกาสนี้ ผู้เขียน ขอขอบคุณทุกๆท่านที่มาขอรับคำพยากรณ์ในช่วงที่ผ่านมา แม้คิวจะยาว ก็ยังยินดีที่จะรอ ขอบคุณลูกศิษย์ทุกๆท่าน แม้ คิวจะไม่ได้ ขอเลื่อนเวลาสอน ก็ยังเข้าใจในตัวผู้เขียน ..รับปากว่าจะนำเสนอบทความ และ แง่คิดในการใช้ชิวิตให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน ในทุกๆวันครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประเกษตร

ดาวเกษตรหมายถึงความมั่นคง ถาวร ยั่งยืน แต่ หากดาวที่โคจรมายังราศีตรงข้ามของเรือนเกษตร ดาวนั้นจะได้ตำแหน่ง "ประเกษตร หรือ...